จากกรณีกกต.มีมติเอกฉันท์ให้ยื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญเพื่อสั่งยุบพรรคก้าวไกล โดยเห็นว่า มีหลักฐานอันควรเชื่อได้ว่าพรรคก้าวไกลกระทำการล้มล้างการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข และกระทำการอันอาจเป็นปฏิปักษ์ต่อการปกครองในระบอบประซาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข

จากการกระทำของนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ และพรรคก้าวไกล ในการเสนอแก้ไขมาตรา 112 แล้วใช้เป็นนโยบายหาเสียงเลือกตั้ง เป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข

ศาลสั่งคุมเข้ม วันตัดสิน 3 คดีสำคัญ “ศักดิ์สยาม-หุ้นพิธา-ก้าวไกล”

ศาลรัฐธรรมนูญ นัดลงมติคดีพิธา-ก้าวไกลหาเสียงแก้ 112 ชี้ชะตา 31 ม.ค.67

พอใจผลไต่สวนคดีหาเสียงแก้ 112 "พิธา"ยันไม่มีเจตนาล้มล้างการปกครอง

ทีมข่าวพีพีทีวี จึงจะพาย้อนไทม์ไลน์ ที่ไปที่มาของคดีดังกล่าว ว่าเริ่มต้นมาจากจุดไหน และที่ผ่านมาผ่านกระบวนการอะไรมาแล้วบ้าง ก่อนที่ กกต.จะมีมติส่งศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยยุบพรรค

วันที่ 10 ก.พ.2564

สส.พรรคก้าวไกล เสนอชุดร่างกฎหมายคุ้มครองเสรีภาพในการแสดงออกและสิทธิในกระบวนการยุติธรรมของประชาชน จำนวน 5 ฉบับ ต่อสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งหนึ่งในนั้นคือร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญาเพื่อยกเลิกประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 ต่อเนื่องมาจนถึงช่วงต้นปี 2566 พรรคก้าวไกล เสนอนโยบายหาเสียง โดยในส่วนนโยบายด้านการเมือง มีการเสนอว่าต้องมีการแก้ไขกฎหมายที่ถูกนำมาใช้ปิดปากหรือทำลายผู้เห็นต่างทางการเมืองทั้ง ม.112, 116, พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์

วันที่ 30 พ.ค.2566

นายธีรยุทธ สุวรรณเกษตร อดีตทนายความของอดีตพระพุทธอิสระ ยื่นคำร้องต่ออัยการสูงสุด ว่าการกระทำของนายพิธา และพรรคก้าวไกลดังกล่าว เข้าข่ายปฏิปักษ์ต่อการปกครอง เพื่อขอให้อัยการสูงสุดร้องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยสั่งการให้เลิกการกระทำของนายพิธาและพรรคก้าวไกล

วันที่ 16 มิ.ย.2566

นายธีรยุทธ สุวรรณเกษตร อดีตทนายความของอดีตพระพุทธอิสระ ยื่นคำร้องตรงต่อศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อพิจารณาวินิจฉัยสั่งให้ นายพิธา และพรรคก้าวไกล เลิกการกระทำที่เป็นการใช้สิทธิและเสรีภาพอันอาจจะนำไปสู่การล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข

วันที่ 26 มิ.ย.2566

ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาคำร้องที่นายธีรยุทธ สุวรรณเกษตร ยื่นคำร้องตรงต่อศาลรัฐธรรมนูญ โดยศาลมีมติให้สอบถามอัยการสูงสุดว่ามีคำสั่งรับหรือไม่รับดำเนินการตามที่ร้องของนายธีรยุทธเมื่อวันที่ 30 พ.ค.2566 หรือไม่

วันที่ 12 ก.ค.2566

ศาลรัฐธรรมนูญ รับคำร้องของนายธีรยุทธ สุวรรณเกษตร ดังกล่าว พร้อมให้ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ และพรรคก้าวไกล ยื่นคำชี้แจงต่อศาลรัฐธรรมนูญภายใน 15 วัน

วันที่ 12 ส.ค. 2566

ศาลรัฐธรรมนูญขยายเวลา 30 วัน ในการส่งเอกสารชี้แจงของนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ และพรรคก้าวไกล ตามคำขอ เนื่องจากระบุเหตุผลว่า เอกสารเยอะ ต้องใช้เวลาในการรวบรวม

วันที่ 26 ก.ย. 2566

นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ และพรรคก้าวไกล ยื่นคำชี้แจงแก้ข้อกล่าวหา พร้อมบัญชีระบุพยานต่อศาลรัฐธรรมนูญ

วันที่ 15 พ.ย. 2566 – 22 พ.ย. 2566

ศาลรัฐธรรมนูญมการประชุมพิจารณาโดยการอภิปรายในคดีดังกล่าว

วันที่ 25 ธ.ค. 2566

ศาลรัฐธรรมนูญมีการไต่สวนพยานบุคคล ในคดีดังกล่าว โดยมีการไต่สวนพยาน รวม 2 ปาก คือ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ และนายชัยธวัช ตุลาธน โดยตอบข้อซักถามของศาลและของคู่กรณี คดีเป็นอันเสร็จการไต่สวน ก่อนที่ศาลนัดแถลงการณ์ด้วยวาจา ประชุม ปรึกษาหารือ และลงมติ

 ย้อนไทม์ไลน์ คดีแก้ 112 “พิธา-ก้าวไกล” ก่อนกกต.มีมติยุบพรรค!

วันที่ 31 ม.ค. 2567

ศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยที่ 3/2567 โดยศาลรัฐธรรมนูญมีมติเอกฉันท์วินิจฉัยว่า การกระทำของนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ และพรรคก้าวไกล เป็นการใช้สิทธิ หรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริยทรงเป็นประมุขตามมาตรา 49 วรรคหนึ่ง ของรัฐธรรมนูญ

วันที่ 1 ก.พ. 2567

นายธีรยุทธ สุวรรณเกษร ในฐานะผู้ร้องศาลรัฐธรรมนูญให้วินิจฉัยยุติการกระทำของพรรคก้าวไกล กรณีหาเสียงแก้ไขมาตรา 112 เข้ายื่นคำร้องต่อ สำนักงาน กกต.ขอให้พิจารณายุบพรรคก้าวไกล เช่นเดียวกับนายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ ที่ขอให้ กกต.พิจารณาส่งเรื่องไปศาลรัฐธรรมนูญให้มีการยุบพรรคก้าวไกลในประเด็นเดียวกัน

วันที่ 12 มี.ค.2567

กกต.มีมติโดยเอกฉันท์ให้ยื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญเพื่อสั่งยุบพรรคก้าวไกล โดยเห็นว่า มีหลักฐานอันควรเชื่อได้ว่าพรรคก้าวไกลกระทำการล้มล้างการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข และกระทำการอันอาจเป็นปฏิปักษ์ต่อการปกครองในระบอบประซาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ตามมาตรา 92 วรรคหนึ่ง (1) และ (2) แห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ. 2560คำพูดจาก เครื่องสล็อต

โดยมอบหมายให้นายทะเบียน พรรคการเมืองเป็นผู้ยื่นคำร้องและดำเนินคดีแทน กกต.

ขยายผล! เจออีกเคส "แก๊งศรีสุวรรณ" ตบทรัพย์เรียกเงิน 100 ล้าน?

ออปต้า ทำนายผลแข่ง ทีมชาติไทย พบ อุซเบกิสถาน รอบ 16 ทีม เอเชียน คัพ

“แบม ไพลิน” เปิดใจสละตำแหน่งมิสแกรนด์ระนอง ยอมรับกำลังตั้งท้อง

By admin